เขียนจบแล้วทำไงต่อ? เส้นทางจาก Word ถึงมือคนอ่าน
- aonnalin8418
- 31 พ.ค.
- ยาว 1 นาที
เสียงพิมพ์แป้นคีย์บอร์ดหยุดลงเมื่อฉันพิมพ์คำว่า “จบบริบูรณ์” บนหน้าจอ Word ความรู้สึกตื่นเต้นและโล่งใจปะปนกันไป ฉันนั่งมองหน้าจออยู่นานก่อนจะกดบันทึกไฟล์
บทที่ 1: การจัดหน้าและรูปแบบ
ฉันเริ่มต้นด้วยการตั้งค่าหน้ากระดาษใน Microsoft Word ให้เหมาะสมกับขนาดหนังสือที่ต้องการพิมพ์ เช่น ขนาด A5 หรือ B5 จากนั้นเลือกฟอนต์ที่อ่านง่าย เช่น Cordia New หรือ TH SarabunPSK ขนาด 14–16 pt และตั้งค่าระยะห่างระหว่างบรรทัดที่ 1.5 เพื่อความสบายตาในการอ่าน
บทที่ 2: การออกแบบปก
การออกแบบปกเป็นขั้นตอนที่สนุกและท้าทาย ฉันใช้โปรแกรม Canva ซึ่งมีเทมเพลตให้เลือกมากมาย เลือกภาพที่สื่อถึงเนื้อหาในหนังสือและเพิ่มชื่อเรื่องพร้อมชื่อผู้เขียนอย่างชัดเจน
บทที่ 3: การเลือกกระดาษและรูปแบบการพิมพ์
ฉันติดต่อโรงพิมพ์เพื่อสอบถามเกี่ยวกับประเภทกระดาษที่เหมาะสมสำหรับหนังสือของฉัน เช่น กระดาษถนอมสายตา 75 แกรมสำหรับเนื้อหา และกระดาษอาร์ตการ์ด 260 แกรมสำหรับปก นอกจากนี้ยังต้องเลือกวิธีการเข้าเล่ม เช่น ไสกาวหรือเย็บกี่ไสกาว ขึ้นอยู่กับความหนาของหนังสือ
บทที่ 4: การตรวจสอบไฟล์และการพิมพ์
ก่อนส่งไฟล์ให้โรงพิมพ์ ฉันตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา การจัดหน้า และความละเอียดของภาพให้เหมาะสมกับการพิมพ์ โดยตั้งค่าความละเอียดที่ 300 dpi และใช้โหมดสี CMYK เพื่อให้สีที่พิมพ์ออกมาตรงกับที่เห็นบนหน้าจอ
บทที่ 5: การสั่งพิมพ์และการจัดส่ง
หลังจากส่งไฟล์และตกลงรายละเอียดกับโรงพิมพ์ ฉันรอรับหนังสือที่พิมพ์เสร็จแล้วด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้รับหนังสือเล่มแรก ฉันรู้สึกภูมิใจที่ความฝันในการเป็นนักเขียนได้กลายเป็นจริง
หากคุณต้องการพิมพ์หนังสือของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นนิยาย บทกวี หรือไดอารี่ส่วนตัว สามารถเริ่มต้นได้ที่:
เพราะทุกความฝัน…คู่ควรกับการพิมพ์ลงบนกระดาษ
แน่นอนครับ! ต่อจากบทความก่อนหน้าในรูปแบบนิยายความรู้หัวข้อ:
“เขียนจบแล้วทำไงต่อ? เส้นทางจาก Word ถึงมือคนอ่าน”
เราจะเล่าต่อจากจุดที่ตัวละคร “นาวา” ได้รับหนังสือเล่มแรกของตัวเองจากโรงพิมพ์ มาในตอนต่อไปนี้ครับ:
🖋️ ตอนที่ 6: กลิ่นหมึกใหม่
กล่องพัสดุสีน้ำตาลใบเล็กวางอยู่หน้าห้อง ฉันรู้ดีว่ามันคืออะไร แม้จะไม่ได้มีข้อความว่า “ด่วนมาก” หรือ “แตกง่าย” ติดอยู่ แต่มันเป็นกล่องที่บรรจุความฝันของฉันมาเต็มใบ
ฉันเปิดกล่องด้วยมือสั่นเล็กน้อย—ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะหัวใจมันเต้นเร็วเกินไป
เล่มแรกโผล่ออกมา ฉันหยิบมันขึ้นมาแนบอก
กลิ่นกระดาษใหม่ กลิ่นหมึกที่ยังสด มันเป็นกลิ่นที่ไม่สามารถดาวน์โหลดได้จากอินเทอร์เน็ต
นั่นคือครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่า “ฉันไม่ได้แค่เขียนจบ…แต่ฉันได้เป็นเจ้าของหนังสือของตัวเองจริงๆ”
📄 ตอนที่ 7: เสียงตอบกลับจากผู้อ่าน
ฉันเลือกพิมพ์แค่ 30 เล่มในล็อตแรก เพราะมันเป็นการทดลอง—ไม่ใช่แค่กับผู้อ่าน แต่กับตัวฉันเอง
10 เล่มถูกมอบให้กับเพื่อนสนิท 5 เล่มส่งให้รุ่นพี่ที่เคยให้คำปรึกษาการเขียน และอีก 15 เล่มฉันแจกให้กับนักอ่านในกลุ่มเฟซบุ๊ก
ไม่ถึงสองวันหลังแจกหนังสือ ฉันได้รับข้อความจากหญิงสาวคนหนึ่ง:
“นาวา…ตอนที่ 4 ที่คุณเล่าถึงความเหงาในห้องเช่า ฉันร้องไห้หนักมาก เพราะมันเหมือนฉันตอนนี้เลย ขอบคุณที่เขียนออกมา”
ฉันนั่งนิ่งอยู่หน้าจอ แล้วหยิบหนังสือขึ้นมาเปิดที่บทนั้น บางที…นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงพิมพ์หนังสือ
🧾 ตอนที่ 8: คิดจะขาย…ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
หลังจากที่กระแสตอบรับดี ฉันเริ่มมีคนทักมาถามว่า “จะสั่งซื้อเล่มได้จากที่ไหน?” นั่นทำให้ฉันเริ่มคิดว่าบางที…ฉันอาจจะลองพิมพ์อีกครั้ง—คราวนี้ไม่ใช่เพื่อแจก แต่เพื่อขาย
ฉันกลับไปที่เว็บไซต์เดิมที่เคยใช้บริการโรงพิมพ์ https://www.theprintshopping.com/booklet แล้วลองใช้คำนวณราคาพิมพ์ 100 เล่ม ปรับหน้าปกนิดหน่อย เพิ่มคำโปรยหลังเล่ม เปลี่ยนชนิดกระดาษเป็นถนอมสายตา 75 แกรม
โรงพิมพ์ตอบไวมากภายใน 1 วัน และการจัดส่งก็รวดเร็วเหมือนเดิม
ฉันเลือกวิธีขายผ่านเพจตัวเองและกลุ่มนักอ่าน ลองใช้ Google Form กับการชำระผ่านโอนบัญชี ไม่ถึง 1 สัปดาห์ หนังสือหมดล็อตอีกครั้ง
📚 ตอนที่ 9: ฉันไม่ใช่นักเขียน…แต่ฉันมีหนังสือของตัวเอง
ฉันยังจำวันแรกที่เขียนบรรทัดแรกในไฟล์ Word ได้ จำความลังเลว่า “จะมีใครอ่านไหม?” และจำช่วงเวลาที่กดบันทึกคำว่า “จบบริบูรณ์” ได้อย่างแม่นยำ
แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันคือ ฉันไม่ได้จบแค่ที่การเขียน ฉันได้เดินต่อสู่เส้นทางของ “เจ้าของหนังสือจริงๆ”
วันนี้ หนังสือเล่มนั้นไม่ได้วางอยู่แค่ในบ้านฉัน แต่มันอยู่ในมือคนที่ไม่รู้จักฉันเลย แต่เขาเชื่อในตัวอักษรของฉัน
และที่สำคัญ—ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความกล้าที่จะ “พิมพ์หนังสือ” ด้วยตัวเอง
🎯 หากคุณกำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่…
ไม่ว่าจะเป็นบทกวี บันทึกชีวิต รูปภาพพร้อมคำอธิบาย หรือคำสอนที่อยากส่งต่อ—ฉันอยากบอกคุณว่า
คุณไม่ต้องรอให้เป็นนักเขียน
คุณไม่ต้องมีชื่อเสียง
คุณไม่ต้องมีคนติดตามเป็นหมื่น
แค่คุณอยากให้เรื่องเล่าของคุณ “อยู่ในเล่ม” อยู่ในมือคนที่คุณรัก หรืออยู่ในใจคนแปลกหน้า
เริ่มต้นได้เลยวันนี้ที่
เพราะหนังสือ ไม่ได้เป็นของนักเขียนเท่านั้น
มันเป็นของ…ทุกคนที่มีเรื่องราวอยากจะเล่า
— จบบริบูรณ์ —
Comments