pub-8921902385125174
top of page

การตลาด คือ อะไร? และทำไม “สแตนดี้” ถึงเป็นอาวุธลับของแบรนด์ยุคนี้

  • รูปภาพนักเขียน: Pok Ratanawong
    Pok Ratanawong
  • 18 พ.ย.
  • ยาว 1 นาที


การตลาดคืออะไร

การตลาด คือ อะไร? (Marketing คืออะไร)

การตลาด คือ กระบวนการทั้งหมดที่ทำให้ “ลูกค้าเห็น → สนใจ → ซื้อ → กลับมาซื้ออีก” เป็นการเชื่อมโยงคุณค่าของสินค้าเข้ากับความต้องการของลูกค้า ผ่านสื่อและประสบการณ์รูปแบบต่าง ๆ ไม่ใช่แค่โฆษณา แต่รวมถึงภาพลักษณ์ ประสบการณ์หน้าร้าน และความรู้สึกที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ด้วย

ทุกวันนี้การแข่งขันสูงขึ้น ลูกค้าถูกกระหน่ำด้วยข้อความโฆษณาทุกช่องทาง ทำให้ธุรกิจต้องหาวิธีสร้าง “จุดเด่น” และ “ประสบการณ์” เพื่อให้ลูกค้าจำแบรนด์ได้ภายในไม่กี่วินาที

หนึ่งในเครื่องมือที่กำลังมาแรงมากในยุคนี้ คือ “สแตนดี้” (Standee)เพราะมันไม่ใช่แค่ป้าย… แต่คือสื่อการตลาดที่ทำได้ทั้ง “ดึงดูด–สร้างภาพลักษณ์–เพิ่มยอดขาย” แบบต้นทุนคุ้มค่าอย่างไม่น่าเชื่อ

⭐ ทำไมสแตนดี้ถึงสำคัญมากในงานการตลาดยุคนี้?

1) ดึงสายตาได้ใน 1 วินาที

งานวิจัยบอกว่า ลูกค้าตัดสินใจว่าจะหยุดดูอะไรภายใน 0.7 วินาทีสแตนดี้ที่วางหน้าร้านช่วยหยุดสายตา ทำให้คนเดินผ่านกลายเป็น “ลูกค้าใหม่” แบบไม่ต้องเสียค่าแอด

2) เป็นเหมือน “พนักงานขายที่ไม่เหนื่อย”

สแตนดี้ทำหน้าที่แทนพนักงานได้ เช่น การตลาด คือ อะไร

  • แนะนำเมนูหน้าร้าน

  • โปรโมตโปรโมชั่น

  • บอกจุดเซลฟี่

  • ชี้นำทาง

  • ต้อนรับลูกค้า

มันทำงาน 24 ชม. โดยไม่ต้องจ่ายเงินเดือน 💁‍♂️

3) ต้นทุนต่ำ ผลลัพธ์สูง

การจ้างอินฟลูเอนเซอร์ 1 คนอาจหลักหมื่น–แสนแต่สแตนดี้ราคาแค่ไม่กี่ร้อยบาท ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง เช่น

  • ร้านชาไข่มุกใช้สแตนดี้โปรโมตเมนูใหม่ ยอดขายเพิ่ม 30%

  • ร้านอาหารญี่ปุ่นใช้สแตนดี้เชฟหน้าร้าน คนแวะเข้ามาร้านมากขึ้น

  • ห้างสรรพสินค้าใช้สแตนดี้รับปริญญา ดึงลูกค้าเข้ามาถ่ายรูปเพิ่ม engagement

4) ทำให้แบรนด์ “น่าจดจำ”

การตลาด คือการทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ให้ได้และสแตนดี้คือสื่อที่สร้าง Brand Experience ดีมาก เช่น

  • วางสแตนดี้ตัวการ์ตูน = แบรนด์เป็นมิตร

  • วางสแตนดี้พนักงานยิ้ม = บริการดี

  • วางสแตนดี้สินค้า = ทำให้สินค้าดูโดดเด่นกว่าคู่แข่ง

⭐ การตลาด คือ “การสร้างประสบการณ์ที่ลูกค้าอยากแชร์”

ถ้าลูกค้าถ่ายรูปกับสินค้าหรือมุมสแตนดี้ นั่นคือการตลาดฟรีที่ทรงพลังที่สุดเพราะลูกค้าจะโพสต์ลง

  • Facebook

  • TikTok

  • IG Story

กลายเป็นการแชร์แบรนด์แบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ซึ่งมีอิมแพกต์สูงกว่าโฆษณาเสียอีก

ร้านอาหาร–คาเฟ่–ร้านขนมหลายเจ้าติดอันดับไวรัลเพราะมี “สแตนดี้ถ่ายรูป” แบบตั้งใจทำ

⭐ ประเภทของสแตนดี้ที่เหมาะกับการตลาด

1) สแตนดี้หน้าร้าน (ดึงลูกค้าเข้า)

นิยมมากสำหรับ

  • ร้านอาหาร

  • คาเฟ่

  • บาร์บีคิว

  • ร้านชานม

เพราะช่วยเรียกลูกค้าให้แวะเข้าร้านได้ทันที

2) สแตนดี้สินค้า (โชว์จุดขายหลัก)

เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการผลักดันสินค้าใหม่ เช่น

  • เครื่องดื่มรสใหม่

  • ขนมออกใหม่

  • แชมพู

  • สินค้าโปรโมชั่น

3) สแตนดี้งานอีเวนต์/ออกบูธ

ช่วยให้บูธโดดเด่นและดูเป็นมืออาชีพ เช่น

  • Roadshow

  • งานวิ่ง

  • Market Fair

  • เปิดตัวสินค้า

4) สแตนดี้ถ่ายรูป (เพิ่ม Engagement)

เป็นประเภทที่เติบโตเร็วที่สุดในยุคโซเชียลส่วนใหญ่ทำเป็น

  • ตัวการ์ตูน

  • ตัวละครแบรนด์

  • ช่องเจาะหน้า

  • สแตนดี้คู่รัก/ครอบครัว

ลูกค้าชอบมาก → ถ่ายรูป → แชร์ → แบรนด์ได้ไวรัลฟรี

⭐ การตลาด คือการทำให้ลูกค้าตัดสินใจ “ง่ายขึ้น”

และสแตนดี้คือเครื่องมือที่ทำสิ่งนี้ได้ดีที่สุดในธุรกิจออฟไลน์

เพราะช่วยบอกข้อมูลสำคัญแบบชัดเจน เช่น

  • เมนูยอดนิยม

  • ลดราคา 50%

  • เมนูใหม่

  • จุดสั่งอาหาร

  • โปรโมชั่นเฉพาะสัปดาห์นี้

ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเร็วขึ้น = เพิ่มยอดขายทันที

⭐ เทคนิคใช้สแตนดี้ให้เวิร์กที่สุด

1) ใช้ภาพใหญ่–สีคอนทราสต์สูง

ภาพชัด = คนหยุดดูสีสด = สะดุดตา

2) ข้อความไม่เกิน 7 คำ

สมองมนุษย์อ่านสั้น ๆ ได้ดีที่สุด

3) วางในจุดที่คนเดินผ่านเยอะ

เช่น

  • หน้าร้าน

  • หน้าทางเข้า

  • จุดคิดเงิน

  • ลิฟต์

4) ออกแบบให้เข้ากับ Branding

ใช้โทนสีเดียวกับแบรนด์จะช่วยให้ลูกค้าจำง่ายขึ้น

⭐ สรุป: การตลาด คือ “การพาแบรนด์ไปอยู่ในหัวลูกค้า”

และสแตนดี้คือเครื่องมือที่ช่วยทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นจริงได้แบบต้นทุนต่ำ แต่ผลลัพธ์สูงมาก

สำหรับร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเครื่องดื่ม ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอาง รวมถึงธุรกิจบริการต่าง ๆการทำสแตนดี้ดี ๆ สักตัวสามารถเปลี่ยนหน้าร้านจาก “ธรรมดา” → “น่าจดจำ” ได้ทันที

ถ้าต้องการออกแบบหรือพิมพ์สแตนดี้ผมสามารถเขียนหน้าเว็บให้ พร้อมสร้างภาพประกอบใช้งานได้เลยครับ 😊

 
 
 

ความคิดเห็น


Featured Posts
Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page