ฉันไม่ได้เป็นนักเขียน…แต่ฉันมี “หนังสือของตัวเอง”

เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเมื่อฉันรู้ตัวว่า “ฉันไม่ได้เป็นนักเขียน…แต่ฉันมีหนังสือของตัวเอง” ฉันไม่เคยคิดว่าแค่ตัวเองจะสามารถทำสิ่งนี้ได้ในชีวิต เพราะการสร้างหนังสือที่จับต้องได้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนที่ไม่ได้จบจากการเป็นนักเขียนมืออาชีพ แต่แล้วในที่สุด ฉันก็ได้ทำมันสำเร็จ จากความฝันเล็กๆ ที่ค่อยๆ เติบโตจนกลายเป็น “หนังสือของตัวเอง” ที่เต็มไปด้วยบทกวี รูปภาพ และคำสอนจากประสบการณ์ชีวิตที่อยากแบ่งปัน

จุดเริ่มต้นของการทำหนังสือ

มันเริ่มต้นจากช่วงเวลาที่ฉันนั่งอยู่ในห้องนอนกับคอมพิวเตอร์เครื่องเดิมที่ใช้ทำงานทุกวัน ขณะที่กำลังร่างไอเดียใหม่ๆ สำหรับโปรเจกต์ส่วนตัวบางอย่าง ฉันเริ่มรู้สึกว่าอยากทำอะไรที่เป็นรูปเป็นร่างมากกว่าการพิมพ์ออกมาเป็นไฟล์ดิจิทัล นั่นคือตอนที่ฉันตัดสินใจว่า “ทำไมไม่ลองทำหนังสือของตัวเองล่ะ?”

ตอนแรกฉันคิดว่ามันคงเป็นแค่ความคิดที่ฝันเกินจริง แต่อย่างที่ทุกคนรู้กัน ความคิดบางอย่างที่เรามักจะคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นจริง กลับเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการก้าวไปข้างหน้า หนังสือของฉันไม่ได้เป็นหนังสือที่ต้องการให้เป็นนวนิยายหรือหนังสือที่ขายได้ในตลาดใหญ่ แต่เป็นการรวมเอาบทกวีที่เคยเขียนในช่วงเวลาที่ฉันมีอารมณ์อ่อนไหว ความคิดสร้างสรรค์ในแบบที่ฉันอยากแชร์ให้คนอื่นได้อ่าน และคำสอนที่ฉันเชื่อว่ามันสามารถช่วยให้ใครบางคนมีกำลังใจในการดำเนินชีวิต

การเขียนและรวบรวมเนื้อหาสำหรับหนังสือ

ฉันเริ่มต้นโดยการเขียนลงในไฟล์ Word เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของฉัน รวมถึงบทกวีที่มีความหมาย รวมไปถึงคำคมจากการเรียนรู้และประสบการณ์ที่ฉันอยากจะแบ่งปันให้คนอื่น ทุกครั้งที่พิมพ์ลงไป ฉันรู้สึกว่ามันเป็นการทำให้ใจของฉันเบาและสุขใจขึ้น ฉันไม่เคยคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นจริง แต่สิ่งที่สำคัญคือการได้บันทึกสิ่งที่คิดลงไปในหน้ากระดาษ

ในช่วงเวลาเดียวกัน ฉันเริ่มค้นหาภาพถ่ายที่เคยถ่ายในทริปต่างๆ หรือช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตและคิดว่า ภาพเหล่านี้สามารถสะท้อนความรู้สึกและอารมณ์ในแต่ละบทได้ ฉันเลือกภาพที่ฉันรู้สึกว่ามีความหมายกับตัวเองมากที่สุด

การเขียนหนังสือสำหรับฉันไม่ได้หมายถึงการเขียนติดต่อกันเป็นปีๆ แต่เป็นการรวมกันของความคิดและความรู้สึกที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต ซึ่งทั้งหมดนี้ฉันอยากให้มันมีชีวิตขึ้นมาด้วยการรวมทุกอย่างเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง

การออกแบบและการเลือกพิมพ์หนังสือ

เมื่อเนื้อหาและรูปภาพครบถ้วน ฉันเริ่มที่จะคิดถึงการทำให้ไฟล์ Word ของฉันกลายเป็น “หนังสือจริง” ฉันเริ่มมองหาโรงพิมพ์ที่สามารถพิมพ์หนังสือในจำนวนที่ไม่มากเกินไป เพราะหนังสือของฉันไม่ได้จะขายเป็นตลาดใหญ่ แต่เป็นการทำในจำนวนจำกัดเพื่อแจกจ่ายให้กับคนที่อยากได้

ฉันค้นหาจนเจอ The Print Shopping https://www.theprintshopping.com/bookletซึ่งให้บริการพิมพ์หนังสือในปริมาณน้อย และยังสามารถปรับแต่งการพิมพ์ตามที่ต้องการได้ อีกทั้งยังมีตัวเลือกในการออกแบบปกและเลือกกระดาษที่เหมาะสมกับความรู้สึกของหนังสือของฉัน หลังจากที่พูดคุยกับทีมงานจาก The Print Shopping ทุกอย่างก็เริ่มเดินหน้าต่อไป

การพิมพ์หนังสือและความตื่นเต้น

เมื่อฉันได้รับการยืนยันว่าหนังสือของฉันสามารถพิมพ์ออกมาได้แล้ว ความตื่นเต้นก็เริ่มต้นขึ้น ฉันส่งไฟล์ทั้งหมดไปยังโรงพิมพ์และรอคอยการพิมพ์หนังสือในรูปแบบที่ฉันออกแบบไว้ หลังจากนั้นไม่นาน หนังสือเล่มแรกของฉันก็ถูกพิมพ์ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ฉันสามารถสัมผัสถึงความแตกต่างของมันเมื่อเทียบกับไฟล์ดิจิทัล

ภาพบนหน้าปกและกระดาษที่มีความนุ่มนวลช่วยให้เนื้อหาภายในดูมีชีวิตและเพิ่มความหมายให้กับทุกคำที่เขียนขึ้น ฉันถือมันในมือและรู้สึกถึงความภูมิใจที่ทำให้ “หนังสือของตัวเอง” กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้

การส่งหนังสือและการแบ่งปัน

เมื่อได้รับหนังสือ ฉันเริ่มแบ่งปันกับครอบครัวและเพื่อนสนิท บางคนบอกว่าได้อ่านแล้วรู้สึกดีใจที่ได้เห็นตัวอักษรที่เขียนขึ้นจากใจในรูปแบบหนังสือ บางคนบอกว่าเนื้อหาของหนังสือช่วยให้พวกเขาเห็นมุมมองใหม่ๆ ในชีวิต ทุกคำพูดเหล่านี้ทำให้ฉันรู้ว่า ความฝันที่ฉันมีมานานไม่ใช่แค่ความฝัน แต่เป็นสิ่งที่มีคุณค่าในตัวเองและสามารถแบ่งปันกับโลกได้

สรุป: การสร้างหนังสือของตัวเอง

หนังสือของฉันไม่ใช่หนังสือที่จะกลายเป็นเบestseller หรือได้รับการยอมรับจากสำนักพิมพ์ใหญ่ๆ แต่สิ่งที่มันมีค่าคือการเป็นตัวแทนของความคิด ความรู้สึก และสิ่งที่ฉันเชื่อว่ามันสามารถสร้างผลกระทบที่ดีให้กับคนอื่นได้

ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีในการทำ “หนังสือของตัวเอง” ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมบทกวี คำสอน หรือแม้แต่ภาพถ่ายที่คุณรัก อย่ารอช้าที่จะทำมันออกมา พิมพ์หนังสือ ที่เป็นของคุณเองกับ The Print Shopping ที่จะช่วยให้ความฝันของคุณกลายเป็นจริงได้ในทันที

ติดตามการสร้างหนังสือและการพิมพ์ที่มีคุณภาพจาก The Print Shopping